XRP เป็นคริปโตเคอเรนซีดั้งเดิมของ Ripple ซึ่งเป็นเครือข่ายการโอนเงินทั่วโลกที่ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน จึงช่วยให้ธนาคาร ผู้ให้บริการชำระเงิน เอ็กซ์เชนจ์สินทรัพย์ดิจิทัล และสถาบันอื่นๆ สามารถชำระเงินข้ามพรมแดนในลักษณะที่มีราคาไม่สูงและมีประสิทธิภาพ
โซลูชันการโอนเงินแบบเก่า เช่น SWIFT ใช้เวลาหลายวันทำการเพื่อชำระการโอนเงินระหว่างประเทศและเรียกเก็บค่าธรรมเนียมที่สูงเกินไป เนื่องจากเป็นการดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับพันธมิตรธนาคารหลายราย Ripple ใช้ XRP Ledger ซึ่งเป็นเครือข่ายบล็อกเชนแบบโอเพ่นซอร์สเพื่อปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานการชำระเงินทั่วโลกและชำระธุรกรรม XRP ทั้งหมด จึงช่วยให้ธุรกิจสามารถส่งและรับการชำระข้ามพรมแดนได้ภายในสามถึงห้าวินาที ธุรกรรม Ripple ไม่เพียงแต่เร็วกว่า SWIFT หรือเครือข่ายการชำระเงินแบบกระจายศูนย์อย่าง Bitcoin เท่านั้น แต่ยังถูกกว่ามากอีกด้วย ถ้าให้พูดอย่างเจาะจงมากขึ้น ค่าธรรมเนียมธุรกรรมของ Ripple มีราคาเพียง 0.0002 ดอลลาร์สหรัฐ
บริษัทและสถาบันทางการเงินสามารถใช้ Ripple เพื่อส่งการชำระเงินข้ามพรมแดนแบบเรียลไทม์ จัดหาสภาพคล่องให้กับคริปโตจากตลาดคริปโตทั่วโลก และสร้างสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (CBDC) ของตนเอง
ในขณะที่การชำระเงินเป็นรากฐานของการดำเนินงานของ Ripple ในช่วงปีแรกๆ โปรโตคอลได้ค่อยๆ เปลี่ยนโฉมใหม่ไปเป็นระบบนิเวศที่แข็งแกร่งมากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ซึ่งก็เนื่องมาจากการความนิยมของแอปพลิเคชันแบบกระจายศูนย์ ทุกวันนี้ Ripple มอบสภาพแวดล้อมที่แอปพลิเคชัน DeFi และ NFT สามารถเติบโตได้ นอกเหนือจากการเปิดใช้งานการชำระเงินที่รวดเร็วและราคาถูก
XRP เป็นโทเค็นดั้งเดิมที่ใช้เพื่ออำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมบนเครือข่าย Ripple
Ripple ทำงานอย่างไร
เครือข่าย Ripple มีสามองค์ประกอบหลักดังนี้
RippleNet: RippleNet เป็นเครือข่ายของสถาบันการเงิน รวมถึงธนาคารทั่วโลก ที่ช่วยให้ผู้ใช้ส่งและรับการชำระบน Ripple ทั้งนี้ RippleNet อนุญาตให้ทำการโอนมูลค่าโดยใช้ชุดกฎที่เหมือนกันซึ่งเรียกว่า Ripple Transaction Protocol (RTXP) เช่นเดียวกับ HTTPS ที่มีโปรโตคอลทั่วไปในการส่งข้อมูลผ่านเว็บ
Ripple: Ripple เป็นแพลตฟอร์มหลักที่ขับเคลื่อนโดย XRP Ledger (XRPL) และมีฟีเจอร์สามอย่าง ได้แก่ ระบบการชำระราคารวมแบบเรียลไทม์ (RTGS), การแลกเปลี่ยนสกุลเงิน และการโอนส่งเงิน
เกตเวย์: เกตเวย์คือธนาคารที่ทำหน้าที่เป็นตัวกลางอันเชื่อถือได้ให้กับสองฝ่ายที่ทำธุรกรรม เกตเวย์เหล่านี้มีหน้าที่รับผิดชอบในการโอนทุนทรัพย์ในสกุลเงินเฟียตและคริปโตเคอเรนซีโดยใช้เครือข่าย Ripple
XRP Ledger คืออะไร
บล็อกเชนเช่น Bitcoin หรือ Ethereum มีการกระจายศูนย์และอาศัยกลไกฉันทามติที่ไม่ต้องพึ่งพาตัวกลางที่ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องไว้วางใจซึ่งกันและกันในการส่งมูลค่า ในทางตรงกันข้าม Ripple อาศัยกลไกฉันทามติแบบพึ่งพาตัวกลาง โดยใช้โปรโตคอลฉันทามติของ XRP Ledger ที่ซึ่งธุรกรรมจะได้รับการตรวจสอบโดยผู้ตรวจสอบและยืนยันที่เชื่อถือได้
XRP Ledger ประกอบด้วยเซิร์ฟเวอร์ที่รวบรวมธุรกรรมจากแอปพลิเคชันลูกค้า เช่น สถาบันการเงิน และประมวลผลข้อมูลเหล่านั้น ผู้เข้าร่วมที่ใช้เครือข่าย Ripple เลือกชุดของเซิร์ฟเวอร์ที่เข้าร่วมในกลไกฉันทามติจากรายชื่อโหนดที่ไม่ซ้ำกัน (UNL) ซึ่งดูแลโดย Ripple เซิร์ฟเวอร์เหล่านี้ได้รับความไว้วางใจให้ทำงานอย่างซื่อสัตย์ในการตรวจสอบการทำธุรกรรม ตราบใดที่เซิร์ฟเวอร์ 80 เปอร์เซ็นต์บน UNL เห็นด้วยกับชุดของธุรกรรม ธุรกรรมนั้นจะได้รับการตรวจสอบ หากไม่ได้รับฉันทามติจากเสียงส่วนใหญ่ ผู้ตรวจสอบและยืนยันจะแก้ไขข้อเสนอของตนหลายรอบจนกว่าเซิร์ฟเวอร์ UNL จะพิจารณาว่าการเปลี่ยนผ่านนั้นถูกต้อง
เซิร์ฟเวอร์ XRP Ledger ดำเนินการโดยบริษัทและสถาบันการเงิน โดย Ripple, XRP Ledger Foundation และ Coil (แพลตฟอร์มที่ได้รับทุนจาก Ripple) ได้เผยแพร่รายชื่อตัวตรวจสอบความถูกต้องที่แนะนำโดยอิงตามเมตริก เช่น ประสิทธิภาพที่ผ่านมา การยืนยันตัวตน และนโยบายด้านไอที
ราคาและเศรษฐศาสตร์โทเค็นของ XRP
Ripple มินต์ XRP จำนวน 100 พันล้าน XRP เมื่อเปิดตัว จากโทเค็น XRP 100 พันล้านโทเค็นเหล่านี้ มี 20 เปอร์เซ็นต์ที่ได้รับการมอบให้กับผู้ก่อตั้ง Ripple อย่าง Chris Larsen และ Jed McCaleb นอกจากนี้ โทเค็น XRP อีก 77.8 เปอร์เซ็นต์ได้รับการจัดสรรให้กับ Ripple และ 0.2 เปอร์เซ็นต์ได้รับการแอร์ดรอปให้กับผู้ใช้
ในปี 2017 Ripple ส่งโทเค็น XRP จำนวน 55 พันล้านเหรียญจากอุปทานที่จัดสรรมาไปยังบัญชีเอสโครว์ มีการตัดสินใจว่าบริษัทจะปล่อยโทเค็น XRP สูงสุด 1 พันล้านเหรียญต่อเดือนเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของ Ripple โดยจะส่งทุนทรัพย์ที่ไม่ได้ใช้กลับไปยังบัญชีเอสโครว์ภายในสิ้นเดือนของแต่ละเดือน Messari ประมาณว่ามี XRP เกือบ 300 ล้านเหรียญจากบัญชีเอสโครว์หมุนเวียนในแต่ละเดือน จากข้อมูลของ Ripple โทเค็น XRP จำนวน 45 พันล้านเหรียญถูกเก็บไว้ในบัญชีเอสโครว์ ณ เดือนพฤษภาคม 2022
โทเค็น XRP ทั้งหมดถูกมินต์ไว้ล่วงหน้าโดย Ripple เมื่อตอนเปิดตัว ดังนั้น คุณจึงไม่สามารถมินต์โทเค็น XRP ใหม่ได้ Ripple ใช้กลไกภาวะเงินฝืดกับ XRP ซึ่งค่าธรรมเนียมทั้งหมดที่เก็บในเครือข่ายจะได้รับการเบิร์นเพื่อลดอัตราเงินเฟ้อ
โทเค็น XRP จะเข้าสู่การหมุนเวียนเมื่อมีการขายโทเค็นในตลาดเปิด โดยไม่สามารถขาย Ripple จากเงินสำรองระหว่างการขายตามโปรแกรมได้มากกว่า 0.25 เปอร์เซ็นต์ของปริมาณการแลกเปลี่ยนคริปโตเฉลี่ยต่อวัน การขาย XRP ยังมาจากการขายตรงโดยสถาบันที่เป็นพันธมิตรกับ Ripple
เกี่ยวกับผู้ก่อตั้ง
Ryan Fugger ก่อตั้งแพลตฟอร์มแบบกระจายศูนย์เพื่อสร้างและจัดการวงเงินสินเชื่อที่เรียกว่า RipplePay ในปี 2004 ซึ่งต่อมาได้กลายเป็น Ripple จากนั้นในปี 2011 Jed McCaleb และทีมนักพัฒนาได้เริ่มลงมือสร้างกลไกฉันทามติใหม่สำหรับสกุลเงินดิจิทัล ซึ่งต่อมาเรียกว่า XRP Ledger โดยมี Chris Larsen, David Schwartz และ Arthur Britto เข้าร่วมกับ McCaleb
หนึ่งปีหลังจากนั้น Jed McCaleb และ Chris Larsen ติดต่อไปหา Ryan Fugger เพื่อเข้าซื้อ RipplePay และ Ryan ตัดสินใจส่งมอบโปรเจกต์ให้พวกเขา หลังจากผสานรวม RipplePay แล้ว Larsen และ McCaleb ก็เปิดตัว Opencoin (ปัจจุบันคือ Ripple Labs) ในเดือนกันยายน 2012
Ripple Labs ปล่อยคริปโตเคอเรนซี XRP ในปี 2012 และระดมทุนได้มากกว่า 7.5 ล้านดอลลาร์ในรอบการระดมทุน Series A ที่นำโดย Andreessen Horowitz ในปี 2013 เพื่อให้เป็นทุนทรัพย์ในการพัฒนาโปรเจกต์ Ripple ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา Ripple ได้มุ่งเน้นไปที่การสร้างความไว้วางใจจากสถาบันการเงิน ไม่ว่าจะเป็นการใช้นโยบายต่อต้านการฟอกเงินที่เข้มงวดขึ้นหรือดำเนินการเพื่อให้ได้รับ BitLicense จากรัฐนิวยอร์ก เพื่อให้สามารถเข้าร่วมเครือข่ายและประมวลผลการชำระเงิน
ไฮไลต์ใน Ripple
Ripple เป็นที่นิยมในหมู่ธุรกิจเนื่องจากมอบโอกาสทางธุรกิจมากมาย หลังจากเพิ่มการรองรับ XRP ในปี 2018 Wirex ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการชำระเงินดิจิทัลที่รองรับธุรกรรมด้วยคริปโตเคอเรนซีได้รับการฝาก XRP ถึง 12 ล้านโทเค็น
นอกจากนี้ Ripple ยังได้รับการมองเห็นและความเชื่อถือในอุตสาหกรรมคริปโตเคอเรนซีในปี 2019 เอ็กซ์เชนจ์ Swiss SIX ได้เปิดตัว XRP ETP (ผลิตภัณฑ์เทรดแลกเปลี่ยน) ในเดือนเมษายน ทำให้นักลงทุนได้ทำความคุ้นเคยกับ XRP ได้ง่ายขึ้น Nasdaq ยังได้เพิ่ม XRP ลงในดัชนีคริปโตเคอเรนซี ซึ่งช่วยเพิ่มการรับรู้และการยอมรับคริปโตเคอเรนซีนี้ นอกจากนี้ Boerse Stuttgart ซึ่งเป็นตลาดหลักทรัพย์ที่ใหญ่เป็นอันดับสองในเยอรมนีได้เปิดตัวธนบัตรเทรดแลกเปลี่ยน XRP
Ripple ประกาศเมื่อปลายปี 2019 ว่าสามารถระดมทุนได้ 200 ล้านดอลลาร์จาก Tetragon, SBI Holdings และ Route 66 Ventures
Ripple และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ (SEC)
ขณะนี้ Ripple กำลังเผชิญกับความท้าทายทางกฎหมายจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งสหรัฐอเมริกา (SEC) โดย SEC อ้างว่า XRP เป็นหลักทรัพย์ ดังนั้นจึงต้องอยู่ภายใต้กฎหมายหลักทรัพย์ของรัฐบาลกลาง ในขณะที่ Ripple โต้แย้งว่า XRP เป็นสกุลเงิน ดังนั้นจึงไม่ต้องอยู่ภายใต้กฎระเบียบนั้น
ผลของการฟ้องร้องนี้อาจส่งผลในระดับกว้างต่ออุตสาหกรรมคริปโตเคอเรนซีทั้งหมด เนื่องจากคำตัดสินที่สนับสนุน SEC จะกำหนดต้นแบบในการปฏิบัติตามกฎระเบียบของคริปโตเคอเรนซี ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร Ripple ยังคงเป็นผู้เล่นหลักในพื้นที่การชำระเงินทั่วโลก โดยยังคงสร้างเครือข่ายสถาบันการเงินและพันธมิตรอย่างต่อเนื่อง
ในการสัมภาษณ์เมื่อเร็วๆ นี้ Brad Garlinghouse ซีอีโอของ Ripple แสดงความเห็นในแง่ดีว่าการฟ้องร้องจะคลี่คลายในเร็วๆ นี้ โดยระบุว่าตนเชื่อว่าบริษัทมีข้อมูลยืนยันที่แข็งแกร่ง และพวกเขา "อยากให้ผู้พิพากษาได้ฟังข้อเท็จจริง"
