STARL คือ Metaverse 3D ของ Ethereum-based ซึ่งผู้เล่นสามารถเล่นเกม เทรด NFT ต่าง ๆ และเข้าสังคมกับผู้เล่นคนอื่น ๆ และสำรวจโลกเสมือนจริงธีมอวกาศ STARL เป็นชื่อและสัญลักษณ์ทิกเกอร์ของโทเคน ERC-20 แบบดั้งเดิมใน STARL Metaverse
STARL Metaverse เป็นการนำ Warp Nexus ซึ่งเป็นเกมออนไลน์แบบผู้เล่นมหาศาล (MMO) ไปใช้ ซึ่งถูกพัฒนาขึ้นโดย Scott Brown แรกเริ่มแล้ว มันถูกสร้างมาด้วยการใช้เอนจินพัฒนาเกม Unity แต่ตอนนี้ STARL ถูกพัฒนาใหม่ที่ Unreal Engine สำหรับการเล่นที่ดีกว่าและดื่มด่ำมากกว่า เมื่อเกมถูกพัฒนาเต็มที่แล้ว คุณจะสามารถไปต่อสู้ ทำภารกิจให้สำเร็จ ปล่อยเช่าโมดูลที่อยู่ของคุณให้ผู้เล่นคนอื่น ๆ เล่นเกมผจญภัยด้วนการใช้พอร์ทัลเกมภายในเมตาเวิร์ส และอื่น ๆ อีกมาก
ปัจจุบัน STARL มี NFT 3 ตัวได้แก่ SATE, Living Modules และ Pixelnauts ซึ่ง SATE NFT ได้รับแรงบันดาลใจจากดาวเทียมของโลกความจริง ซึ่งเป็นไอเทมของนักสะสมดั้งเดิมในเมตาวิร์สของ STARL นอกจากนี้นักสะสมยังสามารถได้รับ APR ถึง 20% ของ SATE NFT ของพวกเขาขึ้นอยู่กับประเภทของการโคจร Living Modules เป็น NFT ที่ดินเสมือนจริง ซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนตัวของคุณในเมตาเวิร์สของ STARL metaverse ซึ่งคุณจัดเก็บไอเทมของคุณ ปรับแต่งชุดตัวละคร เรียกคืนสุขภาพดี ๆ และอื่น ๆ อีกมาก โครงการยังวาแผนที่จะให้ผู้ใช้สามารถปล่อยเช่าโมดูลที่อยู่กับคนอื่น ๆ โดยได้รับ STARL เป็นสิ่งตอบแทน อันสุดท้าย Pixelnauts คือ NFT แบบ PFP ที่เป็นเอกลักษณ์ซึ่งได้รับการออกแบบและการดูแลจากศิลปินหลากหลายคน NFT ของ STARL พร้อมให้ใช้ที่มาร์เก็ตเพลซของ STARL
โทเคนเป็นสื่อกลางโดยดั้งเดิมของการแกลเปลี่ยนภายในเมตาเวิร์สของ STARL ผู้ใช้สามารถซื้อ ขาย เทรด และปรับแต่งไอเทมในเกมด้วยการใช้โทเคน STARL นอกจากนี้ STARL ยังทำหน้าที่เป็นโทเคนการควบคุมแบบดั้งเดิมของ DAO ของโครงการอีกด้วย
STARL คือโครงการที่ไร้ศูนย์กลางโดยสมบูรณ์ด้วยอุปทานคิดเป็นโทเคน 10 ล้านล้านเหรียญ ซึ่งเริ่มใช้งานผ่านการเริ่มต้นที่ยุติธรรม ไม่มีการขายล่วงหน้า การปลดล็อกแบบส่วนตัวหรือโทเคนของทีม ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อราคาของ STARL ยังมีค่าธรรมเนียมหรือการเก็บค่าพัฒนาสำหรับโครงการอีกด้วย
โทเคน STARL 20.8 พันล้านเหรียญถูกเผา ซึ่ง 20 พันล้านเหรียญถูกเบาโดย Woof Decentra ผู้ก่อตั้งโครงการ
STARL ถึงมูลค่าตามราคาตลาด 100 ล้านดอลลาร์ภายในเดือนเดียวของการเริ่มใช้ นอกจากนี้โครงการ STARL ใช้เวลาเพื่อให้ได้ 2.6 ล้านดอลลาร์ภายในการประมูล SATE NFT สองรอบของพวกเขา
โทเคน STARL ถูกเริ่มใช้งานในวันที่ 1 กรกฎาคม 2021 โดย Woof Decentra ผู้สร้างโทเคน LEASH เมตาเวิร์สของ STARL เกิดมาในภายหลังเมื่อ Moe Larson ผู้จัดการโครงการคนปัจจุบันของ เมตาเวิร์สของ STARL ติดต่อ Woofด้วยไอเดียของเมตาเวิร์สธีมอวกาศ
ทีมของ STARL ประกอบด้วยมากกว่า 20 คนที่มีผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายแวดวง ชื่อที่โด่งดังรวมถึงผู้มีประสบการณ์ช่ำชองอย่าง Shahid Ahmad (เคยอยู่ที่ Playstation), Markus Krichel (เคยอยู่ที่ Disney), Scott Bounds (เคยอยู่ที่ Sony และ Lionsgate) และ Scott Brown (ประธํานและหัวหน้าฝ่ายพัฒนาที่ Wyrmbyte)
STARL เป็นพาร์ตเนอร์กับ WyrmbyteGames สำหรับการนำ Warp Nexus ไปปรับใช้กับเมตาเวิร์สของ STARL นอกจากนี้ โครงการยังร่วมมือกับ Amoeba Music ค่ายเพลงอิสระที่ใหญ่ที่สุดในโลก เพื่อนำศิลปินทางดนตรีมาสู่เมตาเวิร์สของ STARL
STARL Metaverse เป็นการดัดแปลงจาก Warp Nexus ซึ่งเป็น MMO ที่พัฒนาโดย Scott Brown สร้างขึ้นครั้งแรกโดยใช้ยูนิตี้ ตอนนี้โครงการสุดท้ายได้รับการพัฒนาใหม่โดยใช้ Unreal Engine
ในการเข้าร่วม STARL Metaverse ให้เชื่อมต่อกระเป๋าเงินคริปโตของคุณกับตลาด STARL เพื่อตั้งค่าโปรไฟล์ของคุณ โปรไฟล์ของคุณเชื่อมโยงกับที่อยู่กระเป๋าเงินของคุณ และจะถูกใช้ใน STARL Metaverse และตลาดซื้อขาย คุณยังสามารถเพิ่มข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ เช่น โปรไฟล์โซเชียลมีเดีย เว็บไซต์ และอื่น ๆ ได้อีกด้วย
เมื่อเข้าสู่ STARL Metaverse คุณสามารถเริ่มโต้ตอบและเทรด NFT เช่น SATE Living Module และ Pixelnaut ได้
คุณสามารถซื้อ STARL จาก OKX exchange โดย OKX เสนอคู่เทรด STARL/USDT นอกจากนี้คุณสามารถซื้อ STARL โดยตรงด้วยเงินเฟียตหรือ เปลี่ยนคริปโตของคุณเป็น STARL
ก่อนที่คุณจะเริ่มเทรดกับ OKX คุณต้อง สร้างบัญชีผู้ใช้ในการซื้อ STARL ด้วยเงินเฟียตที่คุณต้องการ ให้คลิก "Buy with card" ("ซื้อด้วยบัตร") ใต้ "Buy Crypto" ("ซื้อคริปโต") บนแถบนำทางด้านบน หากต้องการเทรด STARL/USDT หรือแปลงคริปโตเป็น STARL ให้คลิก "Basic trading" ("การเทรดขั้นพื้นฐาน") หรือ "Trade" ("เทรด") ใต้ "Convert" ("แปลง") ตามลำดับ