คริปโทจะเปลี่ยนโฉมเงิน ระบบการเงิน อินเทอร์เน็ต และสังคมของเรา รวมถึงเอื้อต่ออิสรภาพและศักดิ์ศรีของทุกคนในท้ายที่สุด
ดูแลทีมของเรา ส่งเสริมและขยายขอบเขตของคริปโทไปทั่วโลก และเสริมศักยภาพให้กับทุกคนในโลก
คริปโตเคอเรนซีเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่มีการรักษาความปลอดภัยด้วยการเข้ารหัสลับและไม่ได้อยู่ในรูปแบบที่จับต้องได้อย่างเงินดอลลาร์สหรัฐ คริปโตเคอเรนซียอดนิยมอย่าง บิทคอยน์ (BTC), Ethereum (ETH) และ Polkadot (DOT)มีการรองรับด้วยเทคโนโลยีอ้างอิงที่เรียกว่า "บล็อกเชน" ซึ่งทำหน้าที่เป็น Ledger ดิจิทัลแบบกระจายอำนาจ
ธุรกรรมคริปโตเคอเรนซีทุกรายการจะถูกบันทึกไว้ในบล็อกเชนและไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้เมื่อได้รับการยืนยันและตรวจสอบแล้ว ธุรกรรมคริปโตเคอเรนซีจะเกิดขึ้นบนบล็อกเชนสาธารณะที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ ซึ่งต่างจากสกุลเงินแบบดั้งเดิมที่ต้องอาศัยธนาคารในการควบคุมจากส่วนกลาง
นอกจากนี้ ทุกคนยังสามารถตรวจสอบธุรกรรมและเพิ่มลงในบล็อกเชนได้โดยอาศัยกลไกฉันทามติ ซึ่งทำให้คริปโตเคอเรนซีมีลักษณะเป็นการกระจายอำนาจ
หลายคนเชื่อว่าเทคโนโลยีบล็อกเชนจะปฏิวัติระบบการเงินโลก โดยมีการลงทุนในรูปแบบสถาบันจากบริษัทชั้นนำอย่าง Samsung, BlackRock, Morgan Stanley และ Alphabet มากยิ่งขึ้น
การเทรดคริปโตเคอเรนซีช่วยให้นักลงทุนได้สัมผัสกับโลกการเงินแบบกระจายศูนย์ และช่วยให้มีส่วนร่วมกับเทคโนโลยีเกิดใหม่
ปัจจุบัน คุณสามารถซื้อคริปโตเคอเรนซียอดนิยมอย่าง Tether (USDT), Polygon (MATIC), Dogecoin (DOGE) และอีกมากมายด้วยวิธีการชำระเงินรูปแบบต่างๆ เช่น Apple Pay, Visa, Mastercard, MoonPay และการโอนเงินผ่านธนาคาร นอกจากนี้ คุณยังสามารถสวอปสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีอยู่ผ่าน แปลง OKX โดยไม่มีค่าธรรมเนียมหรือสลิปเพจของราคา หรือซื้อคริปโตได้โดยตรงจากผู้ขายรายอื่นผ่านตลาด การเทรด P2P OKX
1. บิทคอยน์เป็นสินค้าเสมือนอย่างหนึ่งและมีความคล้ายคลึงกับการลงทุนแบบดั้งเดิมในหลายๆ ด้าน
2. บิทคอยน์เป็นวิธีการชำระเงินแบบ P2P และมีศักยภาพที่จะท้าทายเจ้าครองตลาดอย่าง Visa
3. บล็อกเชนบิทคอยน์ ในฐานะที่เป็นบล็อกเชนพื้นฐาน สามารถให้โซลูชันร่วมกันสำหรับบล็อกเชนสาธารณะอื่นๆ ได้ โดยที่ตัวบิทคอยน์เองเป็นค่าธรรมเนียมสำหรับบริการนี้ ด้วยเหตุนี้ บล็อกเชนบิทคอยน์อาจกลายเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำหรับต่อยอดแอปพลิเคชันบล็อกเชนอื่นๆ ต่อไปในอนาคต
4. บิทคอยน์เป็นสกุลเงินเสมือนทางอินเทอร์เน็ต บิทคอยน์มีคุณลักษณะบางอย่างเหมือนสกุลเงินแบบดั้งเดิม และมีคุณลักษณะบางอย่างเหมือนระบบชำระเงินแบบดั้งเดิมในชุมชนอินเทอร์เน็ต
5. บิทคอยน์เป็นสินทรัพย์สำรองอย่างหนึ่งเหมือนเช่นทอง และเนื่องจากบิทคอยน์มีมาตรฐาน สามารถแบ่งได้ และสามารถโอนทางออนไลน์ได้ บิทคอยน์จึงมีข้อได้เปรียบมากมายในหลายแง่มุม เช่น ประสิทธิภาพในการชำระเงิน ต้นทุนในการเก็บรักษา และอื่นๆ อีกมากมาย ด้วยเหตุนี้ บิทคอยน์จึงมีศักยภาพที่จะกลายเป็น “ทองดิจิทัล” ในรูปแบบหนึ่ง ดังนั้น จึงเป็นสินทรัพย์ที่มีโอกาสที่จะสามารถแทนที่ทองในยุคที่อินเทอร์เน็ตเฟื่องฟูได้
ประเทศส่วนใหญ่ยังไม่ให้การยอมรับว่าบิทคอยน์เป็นสกุลเงิน แต่ให้นิยามว่าเป็นสินค้าเสมือน แต่ถึงอย่างนั้น หลายๆ ประเทศก็ได้ออกกฎระเบียบข้อบังคับหรือเริ่มให้การสนับสนุนอย่างแข็งขันเพื่อส่งเสริมให้บิทคอยน์เติบโต ในตอนนี้ ทัศนคติโดยรวมของหน่วยงานกำกับดูแลเริ่มเปลี่ยนจากที่มีมุมมองแบบเฉยๆ เป็นไปในเชิงบวกมากขึ้น สหรัฐอเมริกาเองก็ได้รวมบิทคอยน์ไว้ในระบบกำกับดูแลทางการเงินที่มีมาแต่เดิม โดยที่บริษัทบิทคอยน์ต่างๆ จะต้องขอรับ MTL (Money Transmitting License) หรือใบอนุญาตโอนเงิน รัฐนิวยอร์กก็ได้ออก BitLicense เพื่อการกำกับดูแลบิทคอยน์เป็นการเฉพาะ หลายๆ ประเทศในยุโรปก็เริ่มมีทัศนคติในเชิงบวกกับบิทคอยน์เช่นกัน บางประเทศได้กำหนดกรอบการทำงานเพื่อกำกับดูแลบิทคอยน์ โดยบางประเทศยืนกรานว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องกับบิทคอยน์ควรเสียภาษีแบบที่มีมาแต่เดิมด้วย FSA ของประเทศญี่ปุ่นได้ให้การยอมรับอย่างเป็นทางการว่าบิทคอยน์และสกุลเงินดิจิทัลเป็นสกุลเงินที่ถูกต้องตามกฎหมาย และออกกฎว่าศูนย์ซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลทุกแห่งจะต้องจดทะเบียนกับ FSA ในอดีต รัฐบาลของรัสเซียเคยออกคำสั่งแบนบิทคอยน์ แต่ได้เพิกถอนคำสั่งดังกล่าวหลังจากที่หลายๆ ประเทศได้ออกกฎระเบียบข้อบังคับ Raghuram Rajan ผู้ว่าการธนาคารกลางของอินเดียกล่าวว่า ก่อนที่เราจะลงมติเป็นเอกฉันท์เกี่ยวกับศักยภาพของบิทคอยน์ เราควรศึกษาในเชิงลึกก่อน แทนที่จะดำเนินการในลักษณะที่เป็นการบังคับมากจนเกินไป